


บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น
ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโ
ลก รายการ 2025 Bridgestone World Solar Challenge (BWSC) *1
ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 24 – 31 สิงหาคม 2568
โดยบริดจสโตนได้สนับสนุนยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันที่มาพร้อมกับเ
ทคโนโลยี ENLITEN ® *2
พร้อมกับการใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมากกว่า 65% *3
โดยเป็นครั้งแรกที่บริดจสโตนนำคาร์บอนแบล็ครีไซเคิลและเหล็กรีไซเคิล
มาใช้
ซึ่งพัฒนาและผลิตจากความร่วมมือกับพันธมิตร
นอกจากการช่วยลดจำนวนการใช้ยางรถยนต์ในระหว่างการแข่งขันแล้ว
บริดจสโตนยังได้จัดการขนส่งคาร์บอนต่ำ
และส่งเสริมการรีไซเคิลหลังการใช้งาน
บริดจสโตนยกระดับความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าของยางรถยนต์ที่ใช้ใ
นการแข่งขัน โดยทีมผู้เข้าแข่งขัน
ที่ใช้ยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN
สามารถคว้าชัยชนะได้ทั้งในประเภท Challenger Class และ Cruiser
Class
บริษัท บริดจสโตนเซลส์
(ประเทศไทย) จำกัด
990 อาคารอับดุลราฮิม ชั้น 16
ถนนพระราม 4
แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
10500
โทร: (02) 636-1505 – 32
โทรสาร: (02) 636-1543 – 44
[แผนดำเนินงานด้านความยั่งยืนในการแข่งขันรายการ 2025
Bridgestone World Solar Challenge]
1.วัตถุดิบและการจัดซื้อ:
เพิ่มสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมากกว่า 65%
ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร
① คาร์บอนแบล็ครีไซเคิล
ผ่านความร่วมมือกับ ENEOS Corporation
บริดจสโตนได้พัฒนาเทคโนโลยีไพโรไลซิสเพื่อฟื้นฟูการใช้วัสดุอย่างคา
ร์บอนแบล็คจากยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน
และเป็นครั้งแรกที่คาร์บอนแบล็ค
จาก Bridgestone Innovation Park (เมืองโคไดระ กรุงโตเกียว)
ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับยางรถยนต์ที่ใช้
ในการแข่งขันรายการ 2025 Bridgestone World Solar Challenge 45
② เหล็กรีไซเคิล
บริดจสโตนได้นำยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานซึ่งรวบรวมจาก
Bridgestone Tire Recycle Center Osaka Corporation
มาผลิตเป็นเหล็กรีไซเคิลด้วยการใช้เตาไฟฟ้าที่ Sanyo Special Steel
Co., Ltd.
จากนั้นเหล็กดังกล่าวถูกรีดและผ่านกระบวนการอบความร้อนโดย
Nippon Steel Corporation เพื่อนำไปผลิตเป็นขอบลวด
(วัสดุเสริมความแข็งแรงของยางรถยนต์)
ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ 2025
Bridgestone World Solar Challenge เป็นครั้งแรก
2.การพัฒนา: ส่งมอบยางรถยนต์สมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยี ENLITEN
ด้วยการนำ ENLITEN
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของบริดจสโตนในการออกแบบผลิตภัณฑ์ยางรถย
นต์มาใช้บริษัทจึงสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และยังตอบโจทย์สมรรถนะของรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นแรงต้านทานการหมุนต่ำ น้ำหนักเบา
และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะให้รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้สภ
าพการแข่งขันสุดท้าทาย
และช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยในระยะทางที่ไกลกว่า 3,000 กม.
นอกจากนี้ บริดจสโตนยังได้ผสานการใช้ Twaron Next ® *6
วัสดุอะรามิดชนิดใหม่ที่มีส่วนประกอบเป็นวัสดุหมุนเวียน พัฒนาโดย
Teijin Aramid เพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์
และส่งเสริมความยั่งยืน
3.การผลิตและการขนส่ง: บรรลุเป้าหมายการจัดการขนส่งคาร์บอนต่ำ
บริดจสโตนได้ใช้โซลูชั่น GoGreen Plus ของ DHL
สำหรับการขนส่งยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน รายการ 2025
Bridgestone World Solar Challenge
โดยการใช้เชื้อเพลิงทางทะเลที่ยั่งยืน
ทำให้บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงสุดถึง
85% ตลอดทั้งวัฏจักรของเชื้อเพลิง นับตั้งแต่การผลิต การขนส่ง
การจัดเก็บ ไปจนถึงการใช้งานบนเรือ (Well-to-Wake)
ซึ่งช่วยให้ลดคาร์บอนในการขนส่ง
4.การใช้งาน:
ส่งเสริมการลดจำนวนยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ 2025
Bridgestone World Solar Challenge
ด้วยความทนทานต่อการสึกหรอที่ดียิ่งขึ้นของยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเท
คโนโลยี ENLITEN ทำให้สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ดี
และยังช่วยลดจำนวนยางรถยนต์ที่จัดสรรให้แต่ละทีมผู้เข้าแข่งขันลงจาก
24 เส้น เหลือ 16 เส้น
5.การรีไซเคิล: ส่งเสริมการรีไซเคิลยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน
ผ่านความร่วมมือกับ RubberGem บริษัทจากออสเตรเลีย
โดยยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานจะถูก
รีไซเคิลเป็นยางปูพื้นคุณภาพสูงสำหรับฟาร์มทั่วโลก
【ขับเคลื่อนการเดินทางระยะไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร ด้วยนวัตกรรม】
“ทีมผู้เข้าแข่งขันที่ใช้ยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN
ของบริดจสโตน คว้าชัยชนะ
ทั้งในประเภท Challenger Class และ Cruiser Class
นับเป็นการคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ของทีมประเภท Challenger
Class ตั้งแต่ปี 2562 และติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 ของประเภท Cruiser
Class ตั้งแต่ปี 2560 การสนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้
บริดจสโตนมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตแห่งการเดินทาง
ด้วยการรุดหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนสู่อนาคตการเดินทาง
และการบ่มเพาะวิศวกรรุ่นใหม่
ความคิดเห็นจากทีมผู้ชนะและผู้บริหารจากบริดจสโตน
ผู้ชนะประเภท Challenger Class : คุณ Elias Wawoe – ทีม Brunel
Solar (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์)
“ครั้งสุดท้ายที่เราชนะการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar
Challenge คือเมื่อแปดปีก่อน
และตั้งแต่นั้นมาเราก็ทุ่มเทเพื่อกลับมาคว้าแชมป์โลกอีกครั้ง
ยางรถยนต์ของบริดจสโตนมอบสมรรถนะ
ได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะความทนทานซึ่งสนับสนุนการเดินทางสู่ชัยชนะ
ของเรา นับเป็นตัวอย่างของ
ยางรถยนต์ที่ดีเยี่ยมสู่การรุดหน้าสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมยาง
รถยนต์ผ่านการแข่งขันในครั้งนี้
และทีมของเราก็แสดงให้เห็นถึงการผสานระหว่างนวัตกรรมและการมุ่งสู่อ
นาคตที่ยั่งยืน”
ผู้ชนะประเภท Cruiser Class: คุณ Kelvin To – ทีม VTC Solar Car
(สถาบันการศึกษาอาชีวศึกษาแห่งฮ่องกง)
“พวกเราทุ่มเทให้กับการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar
Challenge มานานกว่าสิบปีแล้ว
และการคว้าชัยชนะในครั้งนี้มีความหมายกับพวกเราเป็นอย่างยิ่ง
นักศึกษาของเราจากสายวิศวกรรม
และการออกแบบได้นำทักษะจากห้องเรียนมาประยุกต์ใช้จริงในการแข่ง
ขันตลอดระยะทาง 3,000 กิโลเมตร
เราเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีล่าสุดด้านพ
ลังงานหมุนเวียนและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ยางรถยนต์บริดจสโตนมีคุณภาพที่เชื่อถือได้สูงมากเพราะยางไม่รั่วถึงแม้
จะวิ่งบนทราย กรวด หรือหลุมบ่อ
และยังช่วยให้เราประหยัดพลังงานได้มากตลอดการแข่งขัน”
ผู้ชนะประเภทรางวัล Bridgestone E8 Commitment Award : คุณ
Joel Pitts – ทีม Iron Lions Solar Car (โรงเรียน Greenville High
School)
“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Bridgestone E8
Commitment Award
ทีมนักเรียนและอาจารย์ของเราได้ตั้งเป้าหมายสร้างรถยนต์พลังงานแสงอ
าทิตย์ระดับโลกที่สามารถผ่านการคัดเลือกและลงแข่งขันในประเภท
Challenger Class
การได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นและแรงผลักดันขอ
งเราในการก้าวสู่การเป็นทีมรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก”
Hiroshi Imai รองประธานและผู้บริหารอาวุโส
รับผิดชอบด้านมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น
“บริดจสโตนขอขอบคุณผู้เข้าแข่งขันทุกทีม รวมถึงทีมงาน ครอบครัว
คณะผู้จัดงาน
และอาสาสมัครทุกท่านที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของการแข่งขันรายการ
Bridgestone World Solar Challenge ที่ผ่านมา
การได้เห็นทุกฝ่ายผสานพลังและความมุ่งมั่นร่วมกันให้กับการแข่งขันสุด
ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทรงคุณค่า
เราภาคภูมิใจที่ยางรถยนต์ของเราที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN
ไม่เพียงแต่สนับสนุน
ทีมผู้ชนะเท่านั้น
แต่ยังช่วยสนับสนุนผู้เข้าแข่งขันอีกหลายทีมตลอดการแข่งขัน
ในฐานะผู้จัดหายางรถยนต์และผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน
บริดจสโตนยังคงยึดมั่นส่งเสริมการสร้างสังคมการเดินทาง
สู่ความยั่งยืน
ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิศวกรและผู้นำรุ่นใหม่ผ่านเวทีการแข่งขันรายกา
ร Bridgestone World Solar Challenge
เรายังคงก้าวข้ามขีดจำกัดร่วมกับผู้เข้าแข่งขันทุกทีม
และมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจาก ‘ห้องทดลองเคลื่อนที่’ นี้
ไปประยุกต์ใช้กับกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่ยั่งยืนในอนาคต”
*1 เว็บไซต์ทางการของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar
Challenge:
https://www.bridgestone.com/bwsc/ และ เว็บไซต์ผู้จัดงาน:
https://worldsolarchallenge.org/
*2 ENLITEN คือ เทคโนโลยีที่ยกระดับสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม
สมรรถนะพื้นฐาน และสมรรถนะทั้งหมดของยาง
ทีมผู้ชนะประเภท Challenger Class
“ทีม Brunel Solar”
ทีมผู้ชนะประเภท Cruiser Class
“ทีม VTC Solar Car”
รถยนต์ รวมถึง “การออกแบบขั้นสูงสุด”
เพื่อเพิ่มสมรรถนะของยางรถยนต์ให้ตอบสนองไม่เพียงแค่ความ
ต้องการและความคาดหวังของตลาดและลูกค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างคุณค่าใหม่
ๆ โดยอ้างอิงจากลักษณะของ
ยานพาหนะและเงื่อนไขการใช้งานที่หลากหลาย
*3 วัสดุรีไซเคิล คือ
วัสดุที่ผ่านการแปรรูปใหม่จากวัสดุเหลือใช้ด้วยกระบวนการผลิตและถูกนำมา
ใช้
ทำเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
หรือเป็นชิ้นส่วนสำหรับประกอบเข้ากับสินค้าหรือบริการ วัสดุหมุนเวียน คือ
วัสดุ
ที่ประกอบด้วยชีวมวลจากสิ่งมีชีวิตและสามารถฟื้นฟูได้อย่างต่อเนื่อง
วัสดุดังกล่าวต้องมาจากแหล่งที่สามารถ
ฟื้นฟูได้ในอัตราที่เท่ากับหรือมากกว่าอัตราการใช้หมดไป
(คำจำกัดความเหล่านี้อ้างอิงจาก ISO 14021:2016)
*4 2023/06/08 Bridgestone Commences Pyrolysis Test of Used Tire
Recycling
*5 ความสำเร็จที่กล่าวถึงในข้อความนี้
เกิดจากโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนโดยองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และ
เทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO)
*6 Twaron Next® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Teijin Aramid