รู้จักกับเทคโนโลยี e-4ORCEนวัตกรรมขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะจากนิสสัน

รู้จักกับเทคโนโลยี e-4ORCEนวัตกรรมขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะจากนิสสัน

เทคโนโลบีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า–หลัง
ตอบสนองฉับไว ยึดเกาะถนนดี มอบความมั่นใจสูงสุดให้แก่ผู้ขับ
พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่ “All in Control” อย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่
การได้อยู่หลังพวงมาลัยของรถที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะคื
อความมั่นใจในอีกระดับ ไม่ว่าจะขึ้นลงทางลาดชัน
หรือฝ่าพื้นถนนที่ขรุขระและลื่น
รถหลากหลายประเภทเช่นรถอเนกประสงค์เอสยูวี
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All-Wheel Drive (AWD)
ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ และเสถียรภาพการทรงตัวในทุกเส้นทาง
นิสสันจึงพัฒนาเทคโนโลยี “e-4ORCE” หรือ “อี-ฟอร์ซ”
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขึ้น เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ
ตอบสนองที่รวดเร็ว ให้ผู้ขับสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ
และมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้เต็มที่ในทุกสถานการณ์
อี-ฟอร์ซ คืออะไร
อี-ฟอร์ซ เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
ที่ช่วยให้ควบคุมรถในทุกเส้นทางได้อย่างน่าประทับใจ นิสสันพัฒนา
และติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์เอสยูวีหลายรุ่นที่จำหน่ายไปทั่วโลก
โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า-หลัง ระบบนี้จึงได้มีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย “อี”
ที่มาจาก electric หรือเป็นระบบไฟฟ้านั่นเอง
นิสสันได้อธิบายว่า “e” มาจากระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100%
ส่วน 4ORCE ที่ออกเสียงว่า “ฟอร์ซ” สื่อถึงพละกำลังของรถ โดยที่ 4
หมายถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ในการพัฒนา อี-ฟอร์ซ นิสสัน ได้รวมเอา 3
เทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน
การทรงตัวมารวมไว้ด้วยกัน คือ “อี-พาวเวอร์”
ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้ความเงียบ
แต่เต็มไปด้วยพละกำลังที่สามารถตอบสนองอย่างทันใจ
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่แม่นยำ
มีการกระจายกำลังไปแต่ละล้อได้อย่างสมดุล
และระบบควบคุมการทำงานของแชสซี
ที่ทำให้การทรงตัวของรถมีเสถียรภาพมากขึ้น
นั่งสบายจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ
ประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ที่น่าประทับใจกับการตอบสนองที่ฉับไว
การทรงตัวที่ดีเยี่ยม
และให้ความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมไม่ว่าจะขับขี่บนพื้นผิวแบบใดก็ตาม

อี-ฟอร์ซทำงานอย่างไร
ก่อนจะเข้าใจการทำงานของ อี-ฟอร์ซ
มาดูกันก่อนว่าโครงสร้างของระบบนี้เป็นอย่างไร จุดเด่นที่ทำให้ อี-
ฟอร์ซ ต่างไปจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเดิม คือ
การติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ามา 2 ตัว แยกหน้า-หลัง ตัวหนึ่งสำหรับล้อหน้า
และอีกตัวหนึ่งสำหรับล้อหลัง
ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบดั้งเดิม
จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์ส่งมาที่ล้อหน้า และหลัง ผ่านเพลากลาง
กว่าจะส่งกำลังมาถึงล้อ ต้องใช้เวลา
ทำให้ต้องรอการตอบสนองเล็กน้อยแม้จะเป็นหลักวินาทีก็ตาม
โดยเฉพาะเมื่อเวลาต้องการให้เครื่องยนต์ส่งกำลังมากๆ มาที่ล้อ เช่น

เมื่อขับขี่บนพื้นถนนที่ไม่เรียบหรือขึ้นลงเนิน
แต่หากลดเวลาส่งกำลังลงมาในระดับเสี้ยววินาที
จะทำให้การขับขี่นั้นควบคุมได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
อี-ฟอร์ซ รับมือกับความท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า–หลัง ที่ทรงพลัง
ซึ่งทำงานอย่างอิสระเพื่อคำนวณแรงขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับการเลี้ยว
การเร่ง และการเบรกตามการควบคุมของผู้ขับ
พร้อมระบบควบคุมเบรกซ้าย-ขวาอย่างแม่นยำ เพื่อให้แรงขับเคลื่อนทั้ง
สี่ล้อทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
แตกต่างจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบทั่วไปที่จำกัดการกระจายแรงไว้ที่
50:50 โดย อี-ฟอร์ซ สามารถปรับแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อหน้า
และหลังได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ 100:0 ถึง 0:100
และเมื่อผสานกับระบบควบคุมเบรก
ล้อซ้ายและขวาก็สามารถปรับแรงได้ด้วยความเร็วและความแม่นยำสูง
มอบการควบคุมที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง
ขณะเดียวกัน ก็ลดการโคลงตัวของรถ
ด้วยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์หน้า และหลัง
ในระบบเบรกแบบสร้างพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking)
ช่วยชะลอความเร็วอย่างสมดุล พร้อมควบคุมแรงเบรกอัตโนมัติ
ทำให้รถทรงตัวดี ลดแรงเหวี่ยง และการโยกศีรษะของผู้โดยสาร
มอบความนุ่มนวล และมั่นใจในทุกการขับขี่
และนั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง
ตอบสนองทันใจ ปลอดภัยมากขึ้น
จริงๆ แล้ว นิสสัน ได้ใช้เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ นี้ในรถยนต์หลายรุ่น
รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV และแบบ อี-พาวเวอร์
ที่นิสสันจำหน่ายในหลายตลาดทั่วโลกมาแล้ว
รถยนต์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้ อี-ฟอร์ซ

จึงให้ประสบการณ์การขับขี่ใหม่ ที่สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
มีการตอบสนองรวดเร็ว ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจเต็มที่
และได้รับความนิยมในทุกตลาด
เมื่อจับคู่กับเทคโนโลยีขับเคลื่อนรถยนเตอร์ไฟฟ้า (EV) หรือ อี-
พาวเวอร์ (e-POWER) ประสิทธิภาพของระบบจะยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก
ขณะที่ อี-ฟอร์ซ
ทำหน้าที่ควบคุมการกระจายกำลังไปยังแต่ละล้ออย่างแม่นยำ
การทำงานร่วมกันของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ช่วยให้การเร่งความเร็วราบรื่
นขึ้น การตอบสนองคมชัดขึ้น ทรงตัวดี
และมอบความมั่นใจในทุกจังหวะของการขับขี่อย่างชัดเจน
จากการตอบสนองที่ดีขึ้น หมายถึง เสถียรภาพ และควบคุมที่ดีขึ้น
เร่งเครื่องได้ไว แซงได้อย่างปลอดภัย การทำงานร่วมกันระหว่าง อี-
พาวเวอร์ และ อี-ฟอร์ซ
ให้ขับขี่ได้มั่นใจมากขึ้นแม้จะกำลังขับขี่บนถนนลื่น ขึ้นทางลาดชัน
เพราะมอเตอร์ที่ล้อทั้งหน้าหลังจะทำงานได้ทันที
ส่งแรงบิดมาให้จังหวะที่เหมาะ และในปริมาณที่เหมาะสม
สามารถควบคุมแรงขับเคลื่อนได้ภายใน 0.1 วินาที
ช่วยให้รถทรงตัวได้อย่างมั่นคงและเกาะถนนได้ดี
แม้ในสภาพเส้นทางที่ท้าทาย
จากจุดเด่นต่างๆ ของ อี-ฟอร์ซ ทำให้รถเอสยูวีที่ติดตั้งระบบนี้
เป็นรถที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหารถเอสยูวีที่ขับแล้วรู้สึกได้ว่าเราสา
มารถควบคุมได้เต็มที่ ให้ความมั่นใจไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง
หรือออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแคร์กับสภาพถนนที่มีความท้า
ทาย
รู้หรือไม่!
เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง Formula E

นิสสันใช้การแข่งขัน Formula E
เป็นหนึ่งในสนามทดสอบของการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
โดยเฉพาะระบบ อี-ฟอร์ซ ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้จากทีมแข่งสู่ศูนย์วิจัย
และพัฒนาในญี่ปุ่น ผลลัพธ์คือ e-4ORCE 05
ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ที่ควบคุมแรงบิดได้แม่นยำ และสมดุลยิ่งขึ้น
สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีจากสนามแข่งสามารถต่อยอดสู่รถยนต์ไฟ
ฟ้าบนท้องถนนได้จริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *