มาสด้าและฟอร์ด ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ด้วยรากฐานที่มั่นคงเป็นฐานการผลิตในไทยก้าวไกลสู่เวทีระดับโลก

มาสด้าและฟอร์ด ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ด้วยรากฐานที่มั่นคงเป็นฐานการผลิตในไทยก้าวไกลสู่เวทีระดับโลก

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 4 ธันวาคม 2568 – บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที
โรงงานผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างมาสด้าและฟอร์ด
จัดพิธีเฉลิมฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 30 ปี
ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการเป็นหนึ่งของผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและส่งเสริมทักษะแรงงานไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล
โดยพิธีเฉลิมฉลองการครบรอบในครั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงจาก มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกอบด้วย มร. โทรุ
นากาจิม่า Managing Executive Officer และ มร. ฮิโรชิ ชิบะ General Manager, ASEAN Business
Office พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจาก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี, เอเอที และพนักงาน
เข้าร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา
มร. โทรุ นากาจิม่า, Managing Executive Officer กล่าวว่า “โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
หรือ เอเอที เป็นหนึ่งในโรงงานหลักที่ผลิตและส่งออกรถยนต์มาสด้านอกประเทศญี่ปุ่น
โดยได้ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2538 ในฐานะบริษัทร่วมทุนระหว่าง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และฟอร์ด
มอเตอร์ คัมปะนี เอเอทีได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นโรงงานผลิตยานยนต์แบบครบวงจรที่ทันสมัย
ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา
เอเอทีไม่เพียงเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการวางมาตรฐาน
และยกกระดับคุณภาพในการผลิตรถยนต์
แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและสร้างสรรค์สังคมมาอย่างต่อเนื่อง”
โรงงานเอเอทีแห่งนี้เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัย
มีทีมวิศวกรที่มีฝีมือและทักษะในการผลิตที่เปี่ยมด้วยมาตรฐานในระดับสากล
ได้ทำการผลิตทั้งรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยมและรถครอสโอเวอร์เอสยูวีของมาสด้า ประกอบด้วย Mazda2, Mazda3,
Mazda CX-3 และ Mazda CX-30 เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและส่งกลับไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น
จึงถือว่าเอเอทีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในระดับโลก ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ชูเอเอทีเป็นฐานการผลิตที่สำคัญและทำการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เรนเจอร์ ซุปเปอร์ ดิวตี้
พร้อมทั้งรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพื่อขายในประเทศและส่งไปจำหน่ายมากกว่า 100
ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ มาสด้า และ ฟอร์ด ยังได้มีการลงทุนที่เอเอทีอย่างต่อเนื่อง สร้างงานให้กับพนักงานกว่า 5,400 คน
และยกระดับทักษะแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล มีการจัดซื้อชิ้นส่วนภายในประเทศในสัดส่วนสูงถึง 67%
และยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบชิ้นส่วนในประเทศไทย สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรม
ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจนี้ยืนยันด้วยยอดการผลิตรถยนต์สะสมมากกว่า 4 ล้านคัน
ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของเอเอทีในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชั้นนำร
ะดับโลก
“การฉลองครบรอบ 30 ปีของเอเอที เป็นการยกย่องพนักงานทุกคนที่ยึดมั่นใน ‘ฝีมือและทักษะในการผลิต’
เราภูมิใจที่คนไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล’ มร. ซิลวิโอ อิลลี
ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโต้อัล ลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

‘เราขอขอบคุณซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจทุกท่านที่ร่วมสร้างความสำเร็จนี้มาด้วยกัน
เอเอทีจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
เพื่อเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต
โดยลงทุนต่อเนื่องในการยกระดับบุคลากรให้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีขั้นสูง
พร้อมยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง”
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาสด้า
ปัจจุบัน มาสด้ามีโรงงานผลิต 2 แห่ง ในประเทศไทย ได้แก่ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที
ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ร่วมกับฟอร์ด
และโรงงานผลิตเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติ Mazda Powertrain Manufacturing Thailand (MPMT)
ซึ่งทั้งสองโรงงานนี้ คือรากฐานสำคัญของมาสด้า
เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์มาสด้าและชิ้นส่วนสำคัญ
เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *