









| เทศกาล Icons of Porsche ครั้งที่ 5 มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน สร้างสถิติใหม่ให้กับเทศกาลแห่งยนตรกรรมของปอร์เช่คาเยนน์ เจเนอเรชันแรก พร้อมชุดแต่งพิเศษจาก Sonderwunsch ปรากฎตัวร่วมกับ คาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่มาคันน์ จีทีเอส, พานาเมร่า พร้อมชุดแต่งพิเศษจาก Sonderwunsch, 911 เทอร์โบ เอส และ 911 จีที 3 พร้อมชุดแต่ง Manthey สร้างความประทับใจด้วยพละกำลัง การออกแบบและเอกลักษณ์เฉพาะตัว |
| ผู้หลงใหลในรถสปอร์ตกว่า 30,000 คนทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมเทศกาล Icons of Porsche ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ณ Dubai Design District ซึ่งได้สร้างสถิติใหม่ผู้เข้าร่วมงานสูงสุดให้กับเทศกาลนี้ หนึ่งในไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การปรากฏตัวพร้อมกันของคาเยนน์ทั้งสองเจเนอเรชัน ทั้งรุ่นคลาสสิคที่ได้รับการตกแต่งใหม่สไตล์ Sonderwunsch และคาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการปรับแต่งปอร์เช่ในปัจจุบัน ตั้งแต่การอัปเกรดอุปกรณ์เสริมจากโรงงานไปจนถึงการสั่งออกแบบเฉพาะบุคคล |
สตุ๊ทการ์ท/ดูไบ.
คาเยนน์ เจเนอเรชันแรก ได้กลายเป็นรุ่นที่มีผู้หลงใหลและเป็นรุุ่นสะสมตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดสู่กลุ่มรถยนต์เอสยูวีของปอร์เช่ และได้สร้างกลุ่มผู้หลงใหลในรุ่นดังกล่าวทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ใช้และนักสะสมทั่วโลกได้รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น เปิดพื้นที่ให้ได้แบ่งปันประสบการณ์ และนำเสนอรถยนต์ของตนเอง หนึ่งในคาเยนน์รุ่นคลาสสิก ที่ได้เข้ารับการดูแลในโปรแกรมซอนเดอร์วุนช์ (Sonderwunsch) ของปอร์เช่เป็นของ ฟิลลิป ซาโรฟิม (Phillip Sarofim) นักธุรกิจและนักสะสมรถ โดยเขาได้นำคาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) ปี 2009 มาปรับสภาพใหม่ทั้งคัน จนกลายเป็นรถใหม่ พร้อมได้เพิ่มการปรับแต่งเฉพาะบุคคลในหลายจุด
โครงการ ‘Factory Re-Commission’ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและมีคาเยนน์เข้าร่วมโครงการ ได้รับความสนใจอย่างมากในเทศกาล Icons of Porsche โดยเป็นการผสานเสน่ห์ดั้งเดิม บุคลิกออฟโรดที่โดดเด่น และการตกแต่งที่ร่วมสมัย ซึ่งสร้างความน่าสนใจได้เป็นอย่างมาก โดยตัวถังสี Black Olive จากโปรแกรม Paint to Sample ให้กลิ่นอายแบบเรโทร ส่วนช่วงล่างตัวถังและล้ออัลลอยใช้สีดำด้าน และภายในห้องโดยสารใช้หนังสี English Green จากโปรแกรม Leather to Sample จับคู่ผ้าลาย Pasha สีดำและเขียวมะกอก รวมทั้งบริเวณกลางเบาะนั่ง และด้านในของช่องเก็บของคอนโซลหน้าก็ได้ใช้ลวดลายนี้ เพื่อเน้นกลิ่นอายความคลาสสิกในแบบปอร์เช่
คาเยนน์ อิเล็กทริค พร้อมตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายที่สุดในตระกูลคาเยนน์
พร้อมกันกับการปรากฏตัวของ คาเยนน์ รุ่นคลาสสิก ปอร์เช่ ยังได้นำ คาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่ มาร่วมเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกหลังการเปิดตัวแบบดิจิทัลทั่วโลกไม่กี่วันก่อนหน้า เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมกำลังสูงสุด 1,156 แรงม้า สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก ระบบแสดงผลและควบคุม Porsche Driver Experience พร้อมหน้าจอโค้ง Flow Display ใหม่ล่าสุด ก็ดึงดูดความสนใจได้เทียบเท่ากับสมรรถนะและการออกแบบเช่นกัน
หนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้ คือความสามารถในการปรับแต่งเฉพาะตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยคาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่รองรับการออกแบบเฉพาะตัวจากโรงงานหลากหลายมากที่สุดในตระกูลคาเยนน์ โดยสามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 13 เฉดสี การตกแต่งภายใน 12 แบบ และชุดตกแต่งภายในสูงสุด 5 รูปแบบ พร้อมเสริมการตกแต่งพิเศษอีก 5 รูปแบบ โดยมีเฉดสีหนังใหม่อย่างสี Magnesium Grey, สี Lavender และ สี Sage Grey พร้อมเบาะโดยสารไร้หนังแบบ Race-Tex ที่มีตัวเลือกผ้า Pepita ถ่ายทอดกลิ่นอายการออกแบบของปอร์เช่ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยรายละเอียดการตกแต่งต่าง ๆ สามารถเลือกปรับให้เข้ากันได้ทั้งภายในและภายนอก
เมื่อจัดแสดงร่วมกับคาเยนน์ รุ่นคลาสสิก ที่ผ่านการปรับแต่งในดูไบ คาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับแต่งของปอร์เช่ตลอดเวลากว่าสองทศวรรษ โดยคาเยนน์ รุ่นคลาสสิกสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของโปรแกรมซอนเดอร์วุนช์ในการสร้างสรรค์รถที่ออกแบบเฉพาะตัว รวมถึงคาเยนน์
อิเล็กทริค ใหม่ ที่รองรับตัวเลือกการปรับแต่งมากที่สุดในตระกูลคาเยนน์ และสามารถต่อยอดเป็นรถยนต์หนึ่งเดียวในโลกผ่านโปรแกรม Porsche Exclusive Manufaktur
ไฮไลต์อื่น ๆ จากเทศกาล Icons of Porsche ครั้งที่ 5
นอกเหนือจากการจัดแสดงคาเยนน์ทั้งสองเจเนอเรชัน ปอร์เช่ ยังได้นำเสนอยนตรกรรมไฮไลต์รุ่นอื่น ๆ ภายในเทศกาล Icons of Porsche โดยหลังจากการเปิดตัวในงาน IAA Mobility ที่มิวนิก รุ่นสูงสุดของตระกูล 911 ก็ได้ดึงดูดทุกสายตาในดูไบ ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนทวินเทอร์โบแบบ T-Hybrid ทำให้ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) ใหม่ กลายเป็นรถสายการผลิตในตระกูล 911 ที่ทรงพลังที่สุดด้วยกำลังรวม 523 กิโลวัตต์ (711 แรงม้า)
มาคันน์ จีทีเอส (Macan GTS)เพิ่มไลน์อัพเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าของปอร์เช่ด้วยบุคลิกสปอร์ต ด้วยกำลังโอเวอร์บูสต์สูงสุด 420 กิโลวัตต์ (571 แรงม้า) พร้อมดิฟล็อกหลังที่มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม และช่วงล่างถุงลมแบบสปอร์ตที่ปรับระดับต่ำลงได้ที่ช่วยยกระดับความคล่องตัวของรุ่นนี้ โดยภายในและภายนอกของมาคันน์ เจเนอเรชันที่ห้า สะท้อนเอกลักษณ์ของตระกูลจีทีเอส ผ่านการออกแบบที่สะดุดตายิ่งขึ้นทั่วทั้งคัน
ภายในห้องโดยสารของ พานาเมร่า เทอร์โบ อี-ไฮบริด (Panamera Turbo E-Hybrid) พร้อมการปรับแต่งพิเศษจากโปรแกรมซอนเดอร์วุนช์ สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการที่เฉพาะตัวของลูกค้าสามารถกลายเป็นจริงได้ การตกแต่งไล่เฉดสีและคู่สีที่ตัดกันแต่ก็ยังลงตัวกับภายนอกรถ รวมทั้งงานฝีมือระดับประณีตที่สร้างเอกลักษณ์ของพานาเมร่า คันนี้ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยอุปกรณ์พิเศษอย่างกล่องเก็บซิการ์แบบควบคุมความชื้นและตู้แช่แชมเปญ เป็นตัวอย่างของความหรูหรา ที่ปอร์เช่สามารถปรับแต่งขึ้นภายในห้องโดยสารผ่านโปรแกรมซอนเดอร์วุนช์นี้
ชุดแต่งแมนทาย (Manthey) ซึ่งจากเดิมรองรับเฉพาะรุ่น 911 จีที 3 อาร์เอส (911 GT3 RS) ขยายสู่รุ่น 911 จีที 3 (911 GT3) เพื่อเพิ่มศักยภาพการขับในสนามแข่ง ชุดแต่งนี้มาพร้อมกับแอโรไดนามิกที่เพิ่มแรงกดอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ และระบบเบรกที่พัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานแบบเข้มข้นในสนามแข่ง เมื่อติดตั้งชุดแต่งแมนทาย ทำให้ 911 จีที 3 ทำเวลาในสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอ(Nürburgring-Nordschleife) ได้ 6:52.981 นาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนราว 2.8 วินาที
ลาบูบู้ (Labubu) ตัวละครที่โด่งดังที่สุดจากเดอะมอนสเตอร์ส (The Monsters) เข้าร่วมการเฉลิมฉลองในดูไบ ด้วยคอลเลกชันรุ่นลิมิเต็ด ‘King Mon’ ที่เป็นการพัฒนาร่วมกันโดยปอร์เช่และศิลปินคาซิ่ง ลุง (Kasing Lung) พร้อมอาร์ตคาร์ที่มีลาบูบู้อยู่ที่หลังพวงมาลัย การร่วมงานครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองครบ 10 ปีของ ‘The Monsters’ และครบรอบ 60 ปีของปอร์เช่ 911 ทาร์กา (911 Targa) ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ภายในงานยังเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของคาร์เรร่า จีที (Carrera GT) รถซูเปอร์สปอร์ตระดับตำนานอีกด้วย
เกี่ยวกับปอร์เช่ ประเทศไทย
ปอร์เช่ ประเทศไทย ดำเนินการโดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ อิมพอร์ต (AAS Auto Import Co., Ltd.) เป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวของยนตรกรรมสปอร์ต ปอร์เช่ ในประเทศไทย ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2536 แบรนด์ปอร์เช่ เป็นผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตหรูชั้นนำจากเมือง สตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีชื่อเสียงจากรุ่นในตำนานอย่าง 911, 718, Cayenne, Macan, Panamera และ Taycan ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่เปิดตัวในปี 2562 และในปี 2567 ได้เปิดตัว Macan ยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของปอร์เช่
ปัจจุบัน ปอร์เช่ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการเปิดให้บริการ 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ Porsche Centre Bangkok (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Centre Pattanakarn (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Centre Bangna (บริหารงานโดย บริษัท สตุทการ์ต ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย)), Porsche Centre Pattaya (บริหารงานโดย บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ ออโต้ สปอร์ตส จำกัด), Porsche Store Bangkok ที่ศูนย์การค้า Emsphere (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด) และ Porsche Now Kanlapaphruek ที่กำลังจะเปิดตัวเป็น Porsche Centre Kanlapaphruek อย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด)
