





บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
จัดการประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิจากทั่วประเทศ
เพื่อประกาศกลยุทธ์สำคัญสำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
โดยมีแผนเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อบรรลุเป้าขาย 8,000 คัน
ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 41% เมื่อเทียบจากยอดขายในปีทีผ่านมา
พร้อมเดินหน้ายกระดับงานบริการหลังการขาย
เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญอย่างยิ่งของซูซูกิ
และสร้างความเชื่อมั่นและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงานประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่
กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและสื่อสารให้ผู้จำหน่ายได้รับทราบถึงกลยุทธ์การ
ดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง
พร้อมบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
หัวข้อสำคัญที่ได้มีการประกาศให้ผู้จำหน่ายได้รับทราบ คือ
แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์สำคัญอ
ย่าง Global Model
ในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ซูซูกิมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดในประเทศไทยอย่างชัดเจน
นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว
ยังมีการเตรียมแผนงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรของผู้จำหน่ายอย่างรอบด้าน
เพื่อรองรับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการดูแลด้วยความจริงใจอย่าง
แท้จริง
“กลยุทธการนำเข้ารถยนต์ Global Model คือ
หนึ่งในแผนงานที่เราได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2567
ซึ่งนอกจากการนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซียมาเป็นผลิตภัณฑ์หลักสำหรับ
จำหน่ายให้แก่ลูกค้าชาวไทย
เรายังเตรียมนำเข้ารถยนต์รุ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากภูมิภาคอื่นมาจำหน่ายอีกด้วย
โดยจะยังคงรักษาจุดแข็งในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีให้ลูกค้าได้เลือกใช้
งานตามไลฟ์สไตล์และความต้องการ” นายทาดาโอะมิ กล่าว
การประชุมครั้งนี้ยังตอกย้ำถึงความพร้อมของซูซูกิ ในการเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง
ด้วยการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุก
ทั้งการโฆษณาออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียและกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น ๆ
เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศเพื่อผลักดันยอดขายให้บร
รลุเป้าหมายที่ 8,000 คันภายในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 41%
เมื่อเทียบจากยอดขายในปีทีผ่านมา
และสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตของซูซูกิในประเทศไทยต่อไป
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการรักษาความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภค
ทั้งในด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และงานบริการหลังการขาย
ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของซูซูกิ
ซูซูกิมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำนวัตกรรม S-Solution
มาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้เต็มรูปแบบ
ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและมั่นใจในการใช้บริการผ่านระบบ Dealer
Management System (DMS) รวมถึงการนำเสนอแคมเปญ “SUZUKI WORRY
FREE” ที่มอบสิทธิพิเศษมากมายให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ยังได้ตอกย้ำพันธกิจในการมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าผ่านการยกระดับกา
รให้บริการหลังการขาย ด้วยการขยายเครือข่ายศูนย์บริการมาตรฐาน 2S (Service &
Spare Parts) เพื่อให้บริการควบคู่ไปกับศูนย์บริการหลักประเภท 3S (Sales, Service
& Spare Parts) เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังมีแผนงานจะเพิ่มศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการแล้วจำนวน 44 แห่ง อีกทั้งยังได้
สนับสนุนให้ผู้จำหน่ายขยายบริการ “Mobile Service”
หรือบริการดูแลรถยนต์นอกสถานที่
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้รับการดูแลรถยนต์โดยไม่ต้องเดินทางไปยังศูนย์บริก
าร โดยทีมช่างผู้ชำนาญการพร้อมให้บริการพื้นฐานที่จำเป็น อาทิ
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็กระบบเบื้องต้น เช่น ระบบเบรก แบตเตอรี่ หรือยาง
และบริการบำรุงรักษาตามรอบระยะ เป็นต้น
นายวัลลภ กล่าวตอนท้ายว่า
ซูซูกิได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมของผู้จำหน่ายทุกรายตั้งแต่ตอน
นี้
เพื่อให้สามารถรองรับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ความพร้อมในวันนี้คือสิ่งสำคัญที่จะตอกย้ำให้ลูกค้าเห็นถึงความมุ่งมั่นของซูซูกิในการ
ยึดมั่นในแนวทาง ‘SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ
คือความเข้าใจทุกความต้องการ’
ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำ
วัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน
พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าและชุมชนในทุกช่วงเวลา”
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900