ขุมพลังสนามแข่งพร้อมแอโรไดนามิกสมรรถนะสูง

ขุมพลังสนามแข่งพร้อมแอโรไดนามิกสมรรถนะสูง

ได้รับการพัฒนาแอโรไดนามิกให้รองรับแรงกดอากาศสูงสุดถึง 540 กิโลกรัมในโหมดสนามแข่งระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ปรับระดับได้ พร้อมอัตราสปริงที่ออกแบบเฉพาะระบบเบรกสมรรถนะสูง ตอบสนองได้ฉับไวกว่าเดิมทำเวลาในสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอได้ 6:52.981 นาที
แทบจะไม่มีรถยนต์สายการผลิตรุ่นใดถูกนำไปใช้ในวันแทรคเดย์มากเท่าปอร์เช่ 911 จีที 3 (911 GT3) และด้วยชุดแต่ง Manthey ใหม่ สามารถยกระดับสมรรถนะของรถสปอร์ตรุ่นนี้บนสนามแข่งได้มากยิ่งขึ้น ผ่านแอโรไดนามิกที่พัฒนาใหม่เพื่อเพิ่มแรงกดอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงล่างที่ได้รับการปรับเฉพาะทาง และระบบเบรกที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ โดย 911 จีที 3 ทำเวลาต่อรอบในสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอ (Nürburgring Nordschleife) ได้ 6:52.981 นาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนที่ติดตั้งชุดแต่ง Manthey ประมาณ 2.8 วินาที

สตุ๊ทการ์ท. 

ปอร์เช่ เปิดตัวชุดแต่งแมนทาย (Manthey) สำหรับปอร์เช่ 911 จีที 3 (992.2) รุ่นปัจจุบัน เพื่อยกระดับสมรรถนะบนสนามแข่งให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดยชุดแต่งนี้ ได้รับการออกแบบให้เพิ่มแรงกดอากาศขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้สามารถทำความเร็วในโค้งได้สูงยิ่งขึ้น ช่วงล่างที่ถูกปรับแต่งเฉพาะสำหรับการขับในสนามแข่ง ระบบเบรกที่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการขับขี่ที่เร้าใจเป็นพิเศษในสนามแข่ง ชุดแต่งแมนทายใหม่นี้ พัฒนาขึ้นผ่านความร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยและพัฒนาปอร์เช่ จากไวซัค (Weissach) และทีมวิศวกรแมนทายจากมอยส์พาธ (Meuspath) โดยชุดแต่งที่ได้รับการพัฒนาสำหรับการใช้งานในสนามแข่งนี้ เตรียมวางจำหน่ายผ่านศูนย์บริการปอร์เช่ทั่วโลก

รองรับแรงกดสูงสุด 540 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 285 กม./ชม.
สนามแข่ง ที่ไม่อนุญาตให้ใช้บนถนนสาธารณะ จะมีแรงกดอากาศเพิ่มขึ้นถึง 540 กิโลกรัมที่ความเร็ว 285 กม./ชม.แอโรไดนามิกของปอร์เช่ 911 จีที 3 ออกแบบมาให้สามารถรองรับแรงกดสูงได้เป็นมาตรฐาน และได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อสมรรถนะในสนามแข่งอย่างเต็มที่ โดยโครงสร้างใต้ท้องรถทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมแอโรไดนามิกได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคัน แผงควบคุมทิศทางลมใต้ท้องรถ (turning vanes) ที่ขยายจาก 1 เมตรเป็น 1.50 เมตร เพื่อสร้างแรงกดอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยฝาครอบพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า ช่วยให้พื้นที่บริเวณท้องรถเรียบสนิท ลิ้นกันชนหน้าถูกออกแบบใหม่และยื่นออกไปด้านหน้าเพิ่มอีก 12 มิลลิเมตร แผงรีดอากาศเฉพาะทางบริเวณดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าและแผ่นรีดลมด้านข้างช่วยเพิ่มแรงกดอากาศบนเพลาหน้าได้อย่างชัดเจน สปอยเลอร์หลังแบบคอห่านของ 911จีที 3 มีความกว้างมากขึ้นและติดตั้งขอบสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ขึ้น แผ่นปลายปีกหลังมีขนาดใหญ่ขึ้นและโค้งเข้าด้านในเพื่อจัดการทิศทางลมให้แม่นยำยิ่งขึ้น ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังพร้อมครีบยาวขึ้นเพิ่มแรงกดโดยไม่เพิ่มแรงเสียดทานอากาศ

ชุดแต่งซุ้มล้อหลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ (Aerodiscs) ลดแรงต้านลมและทำให้การไหลเวียนของอากาศสอดประสานกับองค์ประกอบแอโรไดนามิกทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของรถ โดยรวมแล้ว แรงกดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยที่ค่าแรงเสียดทานยังคงเท่าเดิม ที่ความเร็ว 285 กม./ชม. 911จีที 3 พร้อมชุดแต่งแมนทาย สร้างแรงกดอากาศรวม 355 กิโลกรัมในโหมดถนน และในโหมด

ชุดช่วงล่างคอยล์โอเวอร์แบบปรับได้
ด้วยความร่วมมือกับแมนทาย ปอร์เช่ ได้พัฒนาชุดช่วงล่างคอยล์โอเวอร์แบบปรับได้สี่ทิศทางสำหรับ 911 จีที 3 เพื่อรองรับการขับในสนามแข่ง โช้คอัพสามารถปรับได้สี่ทิศทาง ยืดออก และยุบตัวได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ อัตราสปริงได้มีการปรับจูนใหม่ (เสริมแรงสปริงเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ติดตั้งชุดแต่งแมนทาย) เพื่อรองรับแรงกดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและช่วยให้การควบคุมรถในจุดใกล้ขีดจำกัดมีความเสถียรยิ่งขึ้น ช่วงล่างที่ปรับสำหรับสนามแข่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะและทำให้รถนิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมื่อวิ่งผ่านขอบทางวิ่งในสนามแข่ง (Kerbs)

สำหรับ 911 จีที 3 ยังมีชุดล้อขึ้นรูปน้ำหนักเบาขนาด 20 และ 21 นิ้ว ที่มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อลดน้ำหนักชิ้นส่วนที่ไม่ผ่านการรองรับของสปริงลงรวม 6 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับล้อขนาดมาตรฐาน สีล้อมีให้เลือกสามสี ได้แก่ สี Brilliant Silver, สี Neodymium และ สี Black (satin-gloss) โดยมีชุดท่อเบรกแบบสตีลเป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความแม่นยำของจุดเบรกและช่วยให้ควบคุมแรงเบรกได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีผ้าเบรกสมรรถนะสูงสำหรับระบบเบรก PCCB ให้เลือกติดตั้งเพิ่มเติมสำหรับ 911 จีที 3 ที่ใช้ชุดแต่งแมนทาย

อุปกรณ์เสริมที่หลากหลายเพื่อเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น สามารถปรับแต่ง 911 จีที 3 ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริมที่เน้นความสปอร์ต ฝากระโปรงคาร์บอนพร้อมแผงข้างประตูแบบมีไฟส่องสว่างลายตัวอักษร Manthey โปรเจกเตอร์ไฟ LED สีขาว ลาย Manthey รวมถึงตัวเลือกการติดสติกเกอร์ลาย Manthey บริเวณประตู ที่ช่วยเสริมเอกลักษณ์อันเฉียบคมของ 911 จีที 3 ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น พร้อมแผ่นปิดล้อคาร์บอนที่มีให้เลือกหลายสีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล สายลากจูงสำหรับใช้งานในสนามแข่งก็มีให้เลือกสำหรับด้านหน้าและด้านหลัง โดยมาในสีแดง ดำ หรือเหลือง และสามารถติดตั้งกับจุดยึดที่กำหนดไว้ โดยต้องถอดออกก่อนใช้งานบนถนนสาธารณะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความพรีเมียมให้ 911 จีที 3 ได้ด้วยช่องระบายอากาศด้านหน้าและช่องรับอากาศด้านหลังที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ CFRP

เร็วขึ้นเกือบ 3 วินาทีบนสนามนูร์เบอร์กริง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
บนสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอ ซึ่งเป็นพื้นที่ทดสอบรถสปอร์ตของปอร์เช่มาอย่างยาวนาน 911 จีที 3 ที่ติดตั้งชุดแต่งแมนทาย สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ภายใต้การควบคุมของ ไอย์ฮานชาน กูเวน (Ayhancan Güven) แชมป์ DTM คนปัจจุบัน รถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันนี้ทำเวลาต่อรอบในระยะทาง 20.8 กิโลเมตรของสนามในแถบไอฟ์เฟลได้ที่ 6:52.981 นาที แม้ในสภาพสนามที่ไม่เอื้ออำนวย โดยมีผลทดสอบเร็วขึ้น 2.76 วินาทีเมื่อเทียบกับ 911 จีที 3 รุ่นก่อนหน้า (992.1) ที่ติดตั้งชุดแต่ง Manthey เช่นกัน โดยทั้ง 2 คันใช้ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R โดยมีหลักฐานการทดสอบอย่างเป็นทางการ

ไอย์ฮานชาน กูเวน กล่าวถึงว่า “การติดตั้งชุดแต่งแมนทาย ทำให้ 911 จีที 3 สามารถควบคุมในโค้งได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยแรงกดอากาศที่เพิ่มขึ้นและช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ ทำให้รถควบคุมง่ายและสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่มากขึ้น น่าเสียดายที่เวลาต่อรอบยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากสภาพสนามที่ลื่นจากความชื้นจากสภาพอากาศปลายฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งหากสภาพสนามแห้งกว่านี้น่าจะลดเวลาลงได้อีกหลายวินาที”

นิโกลาส เรเดอร์ (Nicolas Raeder) กรรมการผู้จัดการ Manthey Racing กล่าวเสริมว่า “ตลอดกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมกับทีมวิศวกรของปอร์เช่ เพื่อพัฒนาชุดแต่งแมนทายใหม่สำหรับ 911 จีที 3 โดยได้พัฒนารายละเอียดมากมายภายในอุโมงค์ลม ทั้งยังได้ทดสอบหลายพันกิโลเมตรในสนามในยุโรป รวมถึงในสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอ โดยเนื่องจากสภาพสนามที่ไม่เหมาะสมสำหรับการทดสอบอย่างเป็นทางการ เราจึงเตรียมกลับมาทำการทดสอบอีกครั้งในปีหน้าเมื่อสภาพอากาศดีขึ้น เพื่อแสดงศักยภาพของ ชุดแต่งแมนทายอย่างเต็มรูปแบบ”

เกี่ยวกับปอร์เช่ ประเทศไทย
ปอร์เช่ ประเทศไทย ดำเนินการโดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ อิมพอร์ต (AAS Auto Import Co., Ltd.) เป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวของยนตรกรรมสปอร์ต ปอร์เช่ ในประเทศไทย ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2536 แบรนด์ปอร์เช่ เป็นผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตหรูชั้นนำจากเมือง สตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีชื่อเสียงจากรุ่นในตำนานอย่าง 911, 718, Cayenne, Macan, Panamera และ Taycan ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่เปิดตัวในปี 2562 และในปี 2567 ได้เปิดตัว Macan ยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของปอร์เช่

ปัจจุบัน ปอร์เช่ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการเปิดให้บริการ 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ Porsche Centre Bangkok (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Centre Pattanakarn (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Centre Bangna (บริหารงานโดย บริษัท สตุทการ์ต ออโต้โมทีฟ (ประเทศไทย)), Porsche Centre Pattaya (บริหารงานโดย บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ ออโต้ สปอร์ตส จำกัด), Porsche Store Bangkok ที่ศูนย์การค้า Emsphere (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด), Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด) และ Porsche Now Kanlapaphruek ที่กำลังจะเปิดตัวเป็น Porsche Centre Kanlapaphruek อย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ (บริหารงานโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *