


กรุงเทพฯ, 22 ธันวาคม 2568 – “กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยผลสำรวจจาก “KA the Poll”[1] ที่สะท้อนแนวโน้มการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่าง ในปี 2569 ชี้ 5 เทรนด์ที่ผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ได้มองแค่รุ่นรถและราคา แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกรถที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การมองหาทางเลือกใหม่ในการใช้รถ ตลอดจนการมองหาสินเชื่อดิจิทัลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากยิ่งขึ้น
เทรนด์ที่ 1: ถูกและดีไม่พอ ต้อง “คุ้มค่า” ตลอดอายุรถ
ผู้บริโภคยุคปัจจุบันไม่ได้ตัดสินใจเลือกซื้อรถจากราคาหรือคุณภาพเท่านั้น แต่พวกเขายังมองไปถึง “ต้นทุนรวมตลอดการใช้งานรถ (TCO – Total Cost of Ownership)” ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีอีกด้วย โดย 72% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เผยว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการวางแผนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถในระยะยาว อีกทั้งกว่า 24% ของผู้ที่เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า รถไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริดยังต้องการให้แบรนด์รถยนต์นำเสนอ “ต้นทุนรวมต่อปี” ให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์คันต่อไป
เทรนด์ที่ 2: เลือกซื้อรถไฟฟ้า เมื่อมองหาความประหยัด
ด้วยปัจจัยด้านความคุ้มค่า การประหยัดค่าใช้จ่าย และทางเลือกที่หลากหลาย ทำให้ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริด เพื่อประหยัดค่าเชื้อเพลิงในระยะยาว ขณะเดียวกัน กว่า 32% ยังให้ความสำคัญกับการมองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยยกระดับทั้งความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถ อาทิ ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงและระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และอีก 14% ต้องการความชัดเจนด้านความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคใช้พิจารณา ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถคันใหม่
เทรนด์ที่ 3: ซื้อรถคันเดียว ต้องใช้ได้ทั้งบ้าน
ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มพิจารณารถยนต์จากไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้งานของคนในครอบครัว ไม่ได้เลือกจากความต้องการของผู้ขับเพียงคนเดียว โดย 27% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อรถเพียงคันเดียวเพื่อใช้ร่วมกันทั้งครอบครัว หรือวางแผนลดจำนวนรถ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมลง
เทรนด์ที่ 4: ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป ใช้รถน้อยลง จึงมองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
รูปแบบการทำงานในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้รถของผู้บริโภคอย่างชัดเจน โดยกว่า 12% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าใช้รถน้อยลงจากเดิม ในขณะที่อีก7% มีไลฟ์สไตล์และความต้องการในการใช้รถที่เปลี่ยนไป ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การใช้รถที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งกว่า 11% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าบริการเช่ารถระยะยาว (Car Subscription) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคต ด้วยจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นของค่าใช้จ่าย และความสะดวกสบายในการบำรุงรักษาที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจัดการด้วยตนเอง
เทรนด์ที่ 5: ขอสินเชื่อรถยนต์ ต้องสะดวก-ง่าย-ออนไลน์ เท่านั้น
ผู้บริโภคยุคดิจิทัลให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความสะดวกของกระบวนการขอสินเชื่อ โดย 33% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่าการสมัครสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่มีช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต ขณะที่ 18% กล่าวถึงตัวเลือกที่รวมประกันกับสินเชื่อไว้ในแพ็กเกจเดียว เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์เป็นไปอย่างครบ-จบ-ในครั้งเดียว
ผลสำรวจจาก “KA the Poll” จัดทำขึ้นผ่านการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่างในองค์กรของกรุงศรี ออโต้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมในปี 2569 โดยมีแนวโน้มในการให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินในระยะยาว และการมองหาทางเลือกที่ช่วยบริหารค่าใช้จ่ายรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแค่เรื่องฟังก์ชัน ซึ่ง กรุงศรี ออโต้ ในฐานะแบรนด์ผู้กำหนดทิศทางตลาด (Market Shaper) จะยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันดิจิทัล ให้พร้อมรองรับพฤติกรรมผู้ใช้รถที่เปลี่ยนไป เพื่อขับเคลื่อนตลาดสินเชื่อยานยนต์สู่อนาคตที่ยั่งยืน
รู้หรือไม่:
- ผู้ใช้รถจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องอะไหล่และค่าบำรุงรักษาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 60,000-80,000 บาท สำหรับการถือครองรถยนต์เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือเมื่อระยะทางประมาณ 150,000 กิโลเมตร
- ในไตรมาสแรกปี 2568 ประเทศไทยมีสถานีชาร์จ EV สาธารณะรวมแล้วกว่า 3,720 แห่ง รวมจำนวนหัวชาร์จทั้งหมดกว่า 11,622 หัว
- ปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ มีสัดส่วนยอดสินเชื่อใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลอยู่ที่ 29.7% เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อทั้งหมด
